สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้

๑.    อย่าเปรียบเทียบ ชีวิตของตัว เองกับคนอื่น   คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง

๒.     อย่าคิดทางลบ เกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้   แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย ,  ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก  ณ ปัจจุบันเสีย

๓.    อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้ …รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน

๔..    อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนัก   เพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก

๕.     อย่า เสียเวลา และพลังงานอันมีค่าของคุณ กับ เรื่องหยุมหยิม หรือเรื่องซุบซิบ….นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง

๖.    จงฝันตอนตื่น มากกว่าตอนหลับ

๗.   ความ รู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า   ๆ ปลี้ ๆ…คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว

๘.   ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย   และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ

๙.    ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร… จงอย่าเกลียดคนอื่น

๑๐.  ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น ,  จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ

๑๑.  ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง

๑๒.  จงเข้าใจเสียว่า ชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และ ปัญหาเป็น เพียง ส่วนหนึ่งของหลักสูตร ซึ่งมาแล้วก็หาย ไป…เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต…แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต

๑๓.   จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น

๑๔.   คุณ ไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกเถียงกับคนอื่น หรอก…บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้…เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ ?

๑.        อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย   ๆ

๒.      จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน

๓.       จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง

๔.       จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน  70  และต่ำกว่า  6 ขวบ

๕.       พยายามทำให้อย่างน้อย  3  คนยิ้มได้ทุกวัน

๖.        คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสักหน่อย

๗.    งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก   แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น ,  อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้ ,  ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

๑.     ทำสิ่งที่ควรทำ

๒.     อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ,  ไม่สวย ,  ไม่น่ารื่นรมย์ , จงทิ้ง   ไปเสีย…เก็บไว้ทำไม ?

๓.     เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้

๔.    ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด ,  เดี๋ยวมันก็เปลี่ยน

๕.    ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน , จงลุกจากเตียง , แต่งตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย… get up, dress up and show up.

๖.     สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง

๗.     ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้ ,  อย่าลืมขอบคุณพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย

๘.    เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุขเสมอ…ดังนั้น ,  ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่า

————————————————

ขอบคุณฟอเวิร์ดเมล์

Advertisement